บทที่ 1 ตอนที่ 1

กระจกรถลีมูซีนสุดหรูสีดำเงาวับในส่วนของห้องผู้โดยสารถูกลดต่ำลงจนเหลือครึ่งบาน สายตาคมกล้าที่ไม่ต่างจากพญาอินทรีจ้องมองร่างระหงสมส่วนในชุดฟอร์มสายการบินเมเนนเดซแอร์เวย์นิ่งนาน

“ญานิดา...”

ลูเซียสพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา หัวใจคล้ายกับถูกสะกดด้วยมนต์ขลังจนไม่อาจจะละสายตาจากสาวงามตรงหน้าได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว แต่แล้วก็เหมือนถูกขวานจามลงมาแรงๆ ที่ศีรษะ เมื่อจู่ๆ ผู้ชายคนหนึ่งที่เขาจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นหัวหน้าแผนกการตลาดในสายการบินตัวเองเดินเข้ามาจับมือถือแขนหญิงสาวที่ตัวเองถูกตาต้องใจ และพากันเดินหายเข้าไปในตัวอาคารด้วยท่าทางสนิทสนม

กรามกระด้างขบกันแน่น ก่อนจะเลื่อนกระจกรถขึ้นจนมิด ความขัดเคืองเต้นเร่าอยู่ในอก รู้สึกไม่ต่างจากถูกตบหน้าอย่างแรง

คนอย่างลูเซียส เมเนนเดซไม่เคยชายตาแลผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยในชีวิต ไม่ว่าจะสวยหยาดเยิ้มแค่ไหนก็ตาม แต่สำหรับญานิดาแม่พนักงานบัญชีสาว กลับทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงที่สุดในชีวิต ร่างกายขานรับเสน่ห์นางอย่างรุนแรง แค่เพียงได้สบตากับสาวเจ้าเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

‘ให้ตายเถอะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายแสนเพอร์เฟ็กต์อย่างเขาจะต้องมาหลงงมงายกับผู้หญิงที่มีเจ้าของอยู่แล้วอย่างนี้ ระยำ!’

“จอดตรงนี้แหละ”

เมื่อรถแล่นผ่านจุดที่ญานิดาเดินหายเข้าไป ลูเซียสจึงสั่งให้จอดรถทันที แม้ว่าปกติเขาจะไม่ได้เข้าที่ประตูนี้ก็ตาม

ช่วงขาเพรียวกำยำที่ซ่อนอยู่ในกางเกงขายาวสีดำเนื้อดีก้าวลงมาจากรถทันทีที่มันจอดสนิท ก่อนจะมุ่งหน้าเดินเข้าไปในตัวอาคารหลังเดียวกับที่เขาเห็นญานิดากับแฟนหนุ่มหายเข้าไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งโกรธ ทั้งเกลียดตัวเองยิ่งนัก ที่ไม่อาจจะสลัดแม่สาวน้อยหน้าหวานอย่างญานิดาให้หลุดออกไปจากสมองได้เหมือนอย่างที่เคยทำกับผู้หญิงคนอื่น ทั้งๆ ที่เจ้าหล่อนก็ไม่ได้เซ็กซ์ เอ็กซ์ อึ๋ม ไปกว่าผู้หญิงพวกนั้นแม้แต่น้อย ดูออกจะชืดจืด ไร้อารมณ์น่าเบื่อเสียมากกว่า แต่เขากลับต้องการหล่อนจนแทบคลั่ง!

ร่างกำยำก้าวยาวๆ ไปตามทางเดินที่ปูด้วยพรมหนานุ่มราคาแพงระยับ ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรเย็นชาแข็งกระด้างจนพนักงานที่เดินผ่านต้องก้มหน้าหลบตาด้วยความหวาดกลัว

ใช่สิ ถึงลูเซียสจะหล่อเลิศ แต่เขาก็ดุร้ายน่ากลัว อารมณ์รุนแรง และเอาแต่ใจอย่างที่สุด แต่ความแย่ๆ พวกนี้ก็ถูกกลบทับด้วยความฉลาดเป็นกรดที่เป็นพรสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

ลูเซียสใจแข็งไม่ต่างจากภูผา สายตาคมกล้าสีดำสนิทนั้นเต็มไปคมอาวุธที่พร้อมจะเชือดคู่แข่งให้ตายคามือ รอยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากที่อิสตรีทั่วโลกยกให้เป็นรอยยิ้มของ ‘เทพบุตรในฝัน’ แต่สำหรับคู่แข่งทั้งหลายที่เคยตายคาสนามธุรกิจกลับขนานนามมันเป็นรอยยิ้มของ ‘อสูรร้าย’

“สวัสดีครับท่านประธาน”

รปภ.วัยฉกรรจ์ที่มีหน้าที่ประจำนั่นก็คือคอยเปิด-ปิดประตูลิฟต์ให้กับผู้ทรงอำนาจที่สุดของสายการบินเมเนนเดซแอร์เวย์ นั่นก็คือลูเซียส เมเนนเดซ คุณชายที่สามแห่งตระกูลใหญ่ของเอเธนส์ กล่าวทักทาย ก่อนจะรีบกดปุ่มเปิดประตูลิฟต์ให้อย่างยำเกรง

“ขอบใจ”

ชายหนุ่มก้าวเข้ามาหยุดในลิฟต์ด้วยท่าทางสง่างามไร้ที่ติ ก่อนจะปล่อยให้ลิฟต์นำพาร่างกายที่กำลังตื่นตัวอย่างน่าละอาย ตั้งแต่แอบมองแม่พนักงานบัญชีสาวในระยะไกล ขึ้นสู่ห้องทำงานที่อยู่ชั้นบนสุดของอาคารแห่งนี้

สมองที่ไม่เคยคิดเรื่องอื่นเลยนอกจากเรื่องงาน ตอนนี้กำลังสับสนอย่างหนัก และมันก็ส่งผลให้ใบหน้าหล่อเหลากระชากลมหายใจของลูเซียสบูดบึ้งตามไปด้วย จนเอมี่เลขาฯ หน้าห้องที่กำลังจะอ้าปากถามเรื่องประชุมต้องหุบปากลงทันที และก้มหน้าทำงานต่อด้วยความหวาดเกรง

ยามอารมณ์ดีเจ้านายของหล่อนก็ดีใจหาย แต่เวลาร้ายก็ร้ายสุดขั้ว ขนาดบรรดาพี่น้องตระกูลเมเนนเดซด้วยกันเองยังไม่กล้าเข้ามายุ่ง

“ผมต้องการประวัติของหัวหน้าแผนกการตลาดเดี๋ยวนี้”

เสียงกระด้างที่บ่งบอกให้รู้ว่ากำลังอารมณ์ไม่ดีดังออกมาจากอินเตอร์คอม เอมี่รีบกระวีกระวาดตอบออกไปอย่างรวดเร็ว

“ได้ค่ะ ดิฉันจะรีบนำขึ้นมาให้ แต่...เอ่อ เป็นสาขาไหนคะ”

เนื่องจากสายการบินเมเนนเดซแอร์เวย์มีหัวหน้าแผนกการตลาดหลายคน ทำให้เอมี่ต้องรีบถามเพื่อป้องกันการผิดพลาด

“เอามาทั้งหมดนั่นแหละ เร็วเข้า!”

“ค่ะท่านประธาน”

หลังรับคำสั่งจากเจ้านาย เอมี่เลขาฯ ที่ลูเซียสเป็นคนคัดสรรมากับมือก็ต้องรีบลนลานกดหาผู้จัดการฝ่ายบุคคลให้รีบนำประวัติของหัวหน้าแผนกการตลาดทั้งหมดขึ้นมาให้โดยด่วน

“เอามาเร็วเข้านะ ท่านประธานอารมณ์ไม่ค่อยดี”

“จะรีบให้เด็กเอาขึ้นไปให้ แต่สงสัยจังว่าใครไปทำอะไรให้ท่านประธานอารมณ์บูดแต่เช้าแบบนี้” เสียงของผู้จัดการฝ่ายบุคคลดังออกมาตามสาย

“ก็คงพวกสามสี่คนที่เธอจะเอาประวัติขึ้นมาให้ฉันนั่นแหละ ถ้าเบาะๆ ก็แค่พักงาน แต่ถ้าหนักหนาก็คงต้องไปหางานอื่นทำ เอ่อ...แค่นี้นะ รีบเอาขึ้นมาให้ด้วยล่ะ” พูดจบเอมี่ก็วางสาย นั่งกระวนกระวายรอคอยสิ่งที่ลูเซียสต้องการด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ

และเพียงไม่นานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลก็นำแฟ้มประวัติขึ้นมาส่งให้กับเอมี่ เลขาฯ วัยดึกยิ้มออกมาอย่างโล่งอก กล่าวขอบคุณ ก่อนจะรีบนำเข้าไปให้เจ้านายของตัวเองอย่างรีบร้อน

บทถัดไป